จากกรณีตำรวจจับกุม นางสาวฐิฌาพร อายุ 42 ปี ปลัดอำเภอเมืองกระบี่ พร้อมเงินสดจำนวน 1 แสนบาท ที่ผู้เสียหายนำมามอบให้ ตามคำเรียกร้องของ นางสาวฐิฌาพร เพื่อแลกกับการเซ็นใบอนุญาตประกอบการ แต่ผู้เสียหายได้แจ้งเจ้าหน้าที่ซ้อนแผนจับ
โดยจากการสอบถามทราบว่าเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 ผู้เสียหายซึ่งประกอบธุรกิจโรงแรม ใน ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ได้เข้ายื่นคำร้องขอต่อใบอนุญาตธุรกิจโรงแรม และขอเพิ่มจำนวนห้องพัก โดยพบกับนางสาวฐิฌาพร ซึ่งปฏิบัติราชการแทนนายอำเภอ และเป็นผู้มีอำนาจลงนามในหนังสือรับรองขอต่อใบอนุญาต
หลังยื่นคำร้องผ่านไปหลายเดือน โรงแรมก็ยังไม่ได้รับเอกสารการต่ออายุใบอนุญาต พอเดือนพฤษภาคม 2566 นางสาวฐิฌาพร ก็แจ้งกลับมาว่า การดำเนินการต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม ต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวน 100,000 บาท ให้ผู้เสียหายนำมามอบให้ อ้างว่าเป็นเงินที่ต้องดูแลเจ้านายข้างบน หากผู้เสียหายไม่จ่ายก็จะไม่ส่งเรื่องไป
แต่ผู้เสียหาย เห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย จึงแจ้งร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ จากนั้นก็ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนจับกุมดังกล่าวคำพูดจาก เว็บสล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้จากการสอบประวัติ นางสาวฐิฌาพร พบว่า มีพฤติกรรมลักษณะนี้หลายครั้ง คือจะเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการ ตั้งแต่หลักหมื่น ไปจนถึงหลักแสนบาท แล้วแต่คำขอที่ผู้ประกอบการแจ้งมา ถ้าไม่ให้ก็จะเก็บเรื่องไว้ไม่ดำเนินการ จนผู้ประกอบการหลายคนต้องยอมจ่ายเงินให้ ส่วนเงินที่ผู้ต้องหาได้มา ก็ตรวจพบว่า ส่วนใหญ่ถูกโอนเข้าบัญชีเว็บพนันออนไลน์
ล่าสุด นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มีคำสั่งย้ายด่วน นางสาวฐิฌาพร ปลัดอำเภอเมือง เข้ามาช่วยราชการที่ทำการปกครอง จ.กระบี่ พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยควบคู่ ส่วนทางอาญาเป็นหน้าที่ทางตำรวจ โดยยืนยันว่าจะดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส ไม่ปกป้องข้าราชการที่กระทำความผิด ไม่ว่าจะมาจากสังกัดใดก็ตาม